วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

ส่วนผสมของ KPI

ขั้นตอนต่อไปของการสร้าง KPI เมื่อรู้แนวทางว่า KPI ของเราจะมุ่งไปทางไหนโดยดูจาก KPI ของหน่วยงานระดับที่ใหญ่กว่าเรา หรือ ถ้าเป็นระดับองค์กรก็หันไปดู Mission Vision Goa etc... (ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหารไปละกัน)
รูปแบบของ KPI ของแต่ละที่ไม่เคยเห็นจะเหมือนกันซักที่เดียว แล้วแต่การตีความ หรือแล้วแต่ต้นฉบับเป็นเจ้าไหน (ที่ปรึกษาให้อะไรมาก็อันนั้นแหละ) หลัก ๆ มักจะประกอบด้วย
- KRA - Key Result Area หรือ ผลที่เราต้องการ เช่นในระดับองค์กร มี KPI ด้านการปฎิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ แผนก IT ก็ขานรับด้วยการอยากให้ Server ทำงานดี ๆ ไม่งอแง เรียกใช้เมื่อไหร่ก็ได้ใช้เมื่อนั้น  อาจจะเขียนว่า มีการดูแลระบบให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองต่อการใช้งานขององค์กร เป็นต้น
 - KPI - Index หรือตัววัด ซึ่งต้องตั้งคำถามว่า สิ่งที่เราจะวัดนั้น สามารถบอกได้ถึงความสำเร็จ หรือผลลัพท์ที่เราต้องการจริงหรือไม่ จาก KRA ข้างต้น หากเราวัดด้วย จำนวนครั้งที่ Server ไม่สามารถใช้งานได้ อาจจะไม่สะท้อนความต่อเนื่อง ได้เท่ากับ ช่วงเวลาที่ Server ไม่สามารถใช้งานได้ (สมมติว่า Serve เปิดใช้งาน 24 ชม.)
คือ server อาจจะมีปัญหา 10 ครั้ง แต่ทุกครั้งสามารถแก้ไขได้ภายใน 5 นาที เทียบกับ การเกิดปัญหาครั้งเดียวแต่ไม่สามารถใช้งานได้ไป 3 วัน กรณีหลังนั้น ส่งผลกระทบรุนแรงกว่า
 
- KPI score หรือ ระดับคะแนน หรือเกรด ที่องค์กรตกลงกันซึ่งต้องเหมือนกันทั้งองค์กรคือ ถ้าใช้แบบ 5 ระดับ ทุกหน่วยงานก็ต้องทำเป็น 5 ระดับทั้งหมด ไม่งั้นจะเปรียบเทียบกันไม่ได้ โดยมากจะเป็นประมาณนี้
  • ระดับ 0 คือไม่ได้คะแนน แย่สุด ๆ ไม่ได้ทำงานเลยมั้งเนี่ย เช่น ปล่อยให้ server down สะสมเกินกว่า 1 สัปดาห์ หรือ 7 วันทำการ
  • ระดับ 1 ต้องปรับปรุง ยังพออภัย แต่คราวหน้าอย่าให้เห็นอีกนะ 
  • ระดับ 2 หากเป็นสิ่งที่เคยทำแล้ว ระดับนี้จะเป็น Base line เช่น downtime สะสมปีก่อนทำได้ ที่ 5 วัน หรือถ้าไม่มีมาก่อน ก็ใช้การคำนวนกลับจากค่าความคาดหวังลดลงมา
  • ระดับ 3 เป้าหมายที่คาดหวัง ซึ่งจะต้องท้าทายกว่า Baseline เช่นกรณี Downtime ไม่เกิน 1%  คิดต่อปีก็คือ  3.65 วัน
  • ระดับ 4 เกินความคาดหวังมาหน่อยนึง ยอดไปเรย อาจจะเพิ่มขึ้นมาเป็น downtime สะสม ไม่เกิน .5%  ต่อปี ก็ประมาณ 1.5 วัน
  • ระดับ 5 เทพมาก ๆ ไม่มี Downtime เลย เป็นต้น
หลาย ๆ กรณีที่ มักจะนำค่าความคาดหวัง หรือกระทั่ง Baseline ไปใส่ไว้ที่ระดับ 5 มันก็ง่ายดีอยู่ แต่จะทำให้ไม่มีความท้าทาย และไม่พัฒนา เว้นแต่ว่าปีก่อนก็ทำได้สุดยอดอยู่แล้ว นั่งเฝ้าไม่ให้ server down ซักวันเดียว ปีถัดไปจะคง scale เดิมไว้ก็ไม่เสียหาย เมื่อตกลงปลงใจได้แล้วก็เอามาใส่ตารางหน้าตาน่าจะออกมาคล้าย ๆ แบบนี้ (แต่ละองค์กรไม่เหมือนกันนะจ๊ะ ย้ำอีกที)



 ยกตัวอย่างการวัดผลซะยาว จะเห็นว่า KPI นั้นต้องเป็นสิ่งที่วัดได้เป็นตัวเลข เห็นกันจะจะ ไม่คลุมเครือ เมื่อมีการวัดผล ตัวเลขอันศักดิ์สิทธิ์นี้ก็จะทำให้ยอมรับกันทั้งผู้วัด และผู้ถูกวัด ดังนั้น การจะนำอะไรมาเป็นไม้บรรทัดวัด KPI นั้นจึงสำคัญมาก คราวหน้ามาต่อกันด้วย S. M. A. R. T.  หลักการเก่า ๆ ที่ใช้ได้เสมอ

KPI ของเราทำมาจากอะไร

 

kpi
 
Key Performance Indicator หรือ KPI ที่แม้จะผิดหลักการแปลงภาษาไปหน่อย แต่ขออ่านว่า กะปิ นะคะ

วันก่อนมีคนใกล้ตัว ที่เป็นชาว IT เหมือนกันบ่นให้ฟังว่าต้องทำ KPI อีกแล้ว ไม่รู้จะเขียนยังไง เขียนเป็น pseudo code ไม่รู้ฝ่ายบุคคลจะเก็ทไม๊ (มีแนวโน้มว่าไม่นะ ^_^''' )

ได้ฟังแบบนั้นเลยให้ไปถามลูกพี่ อีกทีว่าพี่มี KPI เป็นของตัวเองหรือยัง ถ้ามีแล้วช่วยแจกมาให้ด้วย ถ้าลูกพี่ไม่มี ก็ฝากลูกพี่ไปถามลูกพี่ของลูกพี่ก่อน แล้วค่อยมาคุยกันอีกที

นั่นก็เพราะ KPI ต้องทำมาจากความเห็นดีเห็นงามตั้งแต่ระดับผู้บริหาร แล้วหน่วยงานย่อย ๆ ก็รับมานั่งคิดนอนคิดว่า หน่วยงานของตนจะช่วยให้ KPI ในระดับบริษัท บรรลุได้อย่างไร ขั้นตอนนี้จะทำเป็นขั้น ๆ ลงมาจนถึงตัวบุคคล หรือที่เรียกว่า cascade นั่นเอง

หากหน่วยงานใด นั่งเทียนเขียน KPI เอง โดยไม่ดูเป้าหมายหลักขององค์กร อาจเกิดปรากฎการณ์ที่หน่วยงาน ประสพความสำเร็จ ทำงานทะลุเป้า แต่องค์กรไม่ทะลุ หรืออาจจะได้ผลตรงข้ามก็เป็นได้ เช่น หน่วยงานอยากพัฒนาบุคลากรให้ได้ cert มันครบทุก ภาษา ( Java , Phython , Ruby ...) แต่องค์กรรับพัฒนาระบบด้วย Java อย่างเดียว cert. อื่น ๆ ก็ไม่มีผล แม้หน่วยงานจะบรรลุ แต่องค์กรไม่ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย หรืออาจจะเป็นการสิ้นเปลืองด้วยซ้ำ
อีกทางนึงของที่มาของ KPI ก็คือสิ่งที่ฟ้าประทาน หรือโครงการที่นายสั่งมา ซึ่งบางที่ก็อาจจะแยกเอาไปวัดผลต่างหาก แต่ถ้าไม่โดนบังคับให้แยก หรือไม่เคยเอาไปวัดผลที่ไหน ก็นำมาใส่ไว้เป็น KPI น่าจะได้ประโยชน์ดี 
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว การสร้าง KPI ของหน่วยงาน หรือของบุคคล ก็ไม่น่าจะยาก เพราะมี KPI ระดับสูงกว่า เป็นเป้าหมายหลักในการสร้าง KPI ที่นี้ก็ได้เวลาหาวัตถุดิบอีกเล็กน้อย มารวมกัน เพื่อทำให้ KPI เหมาะสม และ วัดได้จริง ติดไว้คราวหน้าละกันนะ

เปิด Blog

ขึ้นบ้านใหม่ แต่เนื้อหา ย้ายมา :)

ใครแวะผ่านมาก็อย่าลืมเ้ม้นทิ้งไว้บ้างนะ


ขอบคุณค่ะ

ศรีภัทรา